เขาถูกคาดหวังไว้สูงมาก หลังจากเป็นผู้เล่นคนแรกที่เซอร์ แมตต์ ซื้อตัวเข้าร่วมทีมหลังจากได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1968 การจ่ายเงินแสนปอนด์ให้เบิร์นลี่ย์ นั้นคาดว่าจะช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้กับทีมได้
มอร์แกน อายุเพียง 24 ปี และได้รับการยอมรับเป็นปีกขวาที่โด่งดังคนหนึ่ง ทั้งที่เทิร์ฟ มัวร์ (สนามของเบิร์นลี่ย์) และกับทีมชาติสกอตแลนด์ ด้วยเทคนิคหลอกล่อกองหลัง, ฝีเท้าที่ว่องไว และลูกเปิดจากด้านข้างที่หวังผลได้
แต่เขาก็เริ่มมีปัญหาหลังจากเซอร์ แมตต์ รีไทร์ไป แม้ว่าตอนแรกวิล์ฟ แมคกินเนสส์ และแฟรงค์ โอ’ฟาเรลล์ จะพยายามเข้ามาช่วยประคองทีม แต่ทั้งคู่ก็มีเวลากับทีมเพียงคนละ 18 เดือนเท่านั้น
มอร์แกน บอกในตอนนั้นว่า “ผมคงพูดไม่ได้ว่าผมเสียใจทีย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มีอยู่ช่วงนึงที่ความมั่นใจของผมมันหดหายไปหมด ยิ่งตอนที่วิล์ฟ แมคกินเนสส์ เข้ามาคุมทีม เขาบอกชัดเจนว่าไม่เห็นผมเป็นผู้เล่นในทีม และผมก็ตอบโต้ไปเช่นกัน”
“ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นตอนแฟรงค์ โอ’ฟาเรลล์ เข้ามา แต่กับแฟรงค์ ผมก็ยังมีความคิดเห็นบางอย่างที่แตกต่างจากเขา อย่างตอนที่เราดูเหมือนจะไร้โชคสุดๆ แต่เขาก็ยังทำตัวแปลกแยกออกไป ตอนที่สปิริตในทีมเหลือน้อยเต็มทีก็ดูเหมือนว่าเขาจะทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้”
ในที่สุดทอมมี่ ดอคเคอร์ตี้ ก็ก้าวมาต่อลมหายใจให้สโมสร แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดพ้นการตกชั้น แต่เขาก็เข้ามาช่วยจุดไฟให้กับมอร์แกน ทั้งการให้เขาเป็นกัปตันทีมและช่วยให้เขากลับไปคิดทีมชาติอีกครั้ง เดอะ ด็อค บอกในตอนนั้นว่า “ผมเคยเห็นวิลลี่ เล่นมาทุกระดับแล้ว ตอนผมเจอเขาที่บราซิล เขาก็ได้รับการโหวตให้เป็นปีกขวาที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นต์ ส่วนสำหรับสโมสร ถ้าไม่นับเรื่องการตกชั้น เขาก็โชว์ผลงานยอดเยี่ยมให้กับเราอย่างต่อเนื่อง ทุ่มเทเต็มที่ในทุกเกม ถ้าเขาเลิกเล่นฟุตบอลเขาไปเป็นนักวิ่งมาราธอนสบายๆ เลย เพราะความอึดของเขานั่นน่าเหลือเชื่อจริง”
“ผมคิดไม่ออกว่าจะมีผู้เล่นในอังกฤษ คนไหนดีกว่าเขาในตำแหน่งนี้ รวมถึงทั้งโลกเลยด้วย เขาเป็นมืออาชีพมาก” เดอะ ด็อค บอกเพิ่มเติม
วิลลี่ก็ตอบกลับ “ผมค่อนข้างหวั่นไหวกับคำชมของเขาเลยนะเนี่ย สำหรับผมแล้วเขาเป็นคนที่มหัศจรรย์ เขาช่วยกระตุ้นเราได้ดีมาก”
แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเลื่อนชั้นกลับขึ้นมา ทั้งคู่ก็กลับเริ่มมองหน้ากันไม่ติด เพราะผู้จัดการทีมทิ้งเขาไว้ที่ข้างสนาม และให้โอกาสสตีฟ คอปเปลล์ลงเล่นมากกว่า
แฟนบางส่วนไม่พอใจกับเรื่องนี้ และคิดว่าขวัญใจพวกเขาตกเป็นเหยื่อ แต่เดอะ ด็อค ซึ่งไม่เคยแสดงความขัดแย้งกับผู้เล่นคนไหนต่อหน้าสาธารณะก็ปฎิเสธเรื่องนี้ เรื่องจบลงตอนหมดฤดูกาลหลังจากเดอะ ด็อค ออกมาบอกว่ามอร์แกน ไม่ต้องการไปทัวร์ออสเตรเลีย ในช่วงซัมเมอร์กับทีม ทำให้ภรรยาของเขาต้องออกมาร่วมโต้เถียงด้วย
“ฉันเบื่อเรื่องนี้เต็มทีแล้ว วิลลี่ถูกกดดันทุกทางให้ต้องการย้ายออก” เธออธิบาย
มันเป็นเรื่องสนุกสำหรับเหล่าหนังสือพิมพ์ ที่จะสร้างเรื่องราวระหว่างสองคนนี้ และสุดท้ายมอร์แกน ก็ย้ายกลับไปเบิร์นลี่ย์ ก่อนจะเล่นให้โบลตัน และจบที่แบล๊กพูล ตอนนี้เขาก็ให้ความสนใจกับกอล์ฟ เพียงอย่างเดียว
ความสามารถและทักษะของเขาพาเขามาอยู่ในทำเนียบสุดยอดนักเตะของทีม แม้ว่าเขาจะจบกับทีมอย่างไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร ไม่รวมถึงว่าเขาไม่กินเส้นกับจอร์จ เบสต์ ด้วยนะ
ไบรอัน คิดส์ สรุปถึงมอร์แกนง่ายๆ ว่า “เขาเป็นประเภทชอบเลี้ยง และเป็นผู้เล่นปีกแบบสมัยเก่า”
สถิติ วิลลี่ลงเล่นทั้งหมด 293 (+สำรอง 3) นัด ยิงไป 34 ประตู ประเดิมสนามนัดแรก บอลลีก เปิดบ้านเจอสเปอร์ส วันที่ 28 กันยายน 1968 (ชนะ 3-1)
Eric the King
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC